ไทรอยด์เป็นพิษHYPERTHYROID
 
    หมายถึง ภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนออกมามากกว่าปกติ ทำให้เกิดอาการของภาวะฮอร์โมนเกินร่างกาย มีการเผา ผลาญอาหารมากเกินไป โรคนี้จัดเป็นโรคภูมิต้านทานทำร้าย ตนเองชนิดหนึ่ง รักษายากครับ ยังไม่มีตัวยาใดที่แก้ต้นเหตุได้ มีแต่ยาต้านฤทธิ์ของฮอร์โมนไทรอยด์เท่านั้น นั่นคือการรักษาปลายเหตุ ไม่หาย....รับประทานยาไปนานๆ มีโทษเป็นเพิ่มอีกโรค หนึ่งได้.....มีอาการหลักๆ ดังนี้.........
·        อารมณ์แปรปรวนตกใจง่าย
·        นอนไม่หลับ
·        กล้ามเนื้ออ่อนแรง
·        ความดันสูง
·        มือสั่น
·        ใจสั่น เหนื่อยง่ายหัวใจเต้นแรง
·        คอพอก และตาโปนในบางคน
·        ประจำเดือนผิดปกติ
·        เหงื่อออกง่าย ขี้ร้อน
·        น้ำหนักลดแม้ว่าจะรับประทานอาหารได้ดี
    ไทรอยด์เป็นพิษนั้น เป็นหนึ่งในโรค Auto Immune Disease  หรือโรคภูมิต้านทานทำร้ายตนเอง ระบบภูมิคุ้มกันทำงานสับสน ไม่สามารถแยกแยะแอนติเจนร่างกายออกจากแอนติเจนแปลกปลอม เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเข้าจู่โจมและเข้าทำร้ายเนื้อเยื่อร่างกายทำให้เกิดเป็นโรคทางออโตอิมมูน ขึ้นมาได้ มีอยู่หลายชนิด เช่น   
        ไทรอยด์เป็นพิษ Hyperthyroid
·        Greaves’ disease
·        Eczema
·        ลำไส้ปั่นป่วน IBS
·        เบาหวาน ชนิด 1 Diabetes Type 1
·        MS Multiple Sclerosis
·        ลำไส้อักเสบ
·        รูมาตอยด์
·        Lupus หรือ SLE
·        สะเก็ดเงิน Psoriasis ฯลฯ

อะไรเป็นสาเหตุของ Auto Immune Disease  และ ไทรอยด์เป็นพิษ มีสาเหตุใหญ่ ๆ 4 สาเหตุ คือ
·        ความทุกข์และความกังวลหรือ WORRYING หรือ STRESS
·        การรับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลมากไป
·        ขาดเอ็นไซม์ช่วยย่อยอาหาร
·        ขาดวิตามิน D และวิตามิน B12
ในกรณีแรกนั้น ปรกติร่างกายเรามีระบบภูมิคุ้มกันคอยต่อสู้กับเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่างๆอยู่แล้ว เมื่อชนะก็กลับเข้าไปอยู่ตามต่อมน้ำเหลือง ม้าม หรือที่อยู่ต่างๆ แต่ถ้าหากเราเกิดความกังวลสูงๆ ร่างกายก็จะส่งเซลล์คุ้มกันนั้นออกมาเช่นกัน ออกมาแล้วก็พยายามหาว่าสิงแปลกปลอมอันนั้นอยู่ไหน.

............... แต่ไม่มีครับว่างเปล่า ...............
เพราะมันถูกกระตุ้นจากความกังวล แต่ความกังวลของเรานั้นยังคงอยู่ต่อเนื่อง เซลล์คุ้มกันนั้นจึงค้นหาต่อเพื่อที่จะกำจัดสิ่งแปลกปลอม หากเจอสิ่งใด
ที่คล้ายและมันคิดว่าใช่ มันก็เข้าทำลาย ต่อมไทรอยด์ของเราก็เช่นกัน ถูกเซลล์คุ้มกันโจมตีTSH receptor ที่ต่อมไทรอยด์เมื่อเป็นเช่นนี้ receptorจึง ถูกบดบังไม่สามารถรับรู้ค่า TSHทีลดลงแล้วนั้นได้ ว่าไม่ต้องผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ T3 และ T4แล้ว...ต่อมไทรอยด์จึงรับรู้ค่าเดิมอยุ่ ยังคงผลิตฮอร์โมนออกมาเรื่อย.....นี่แหละคือ ปัญหา.........................................หรือถูกบงการโดยเจ้านายคนใหม่คือเซลล์คุ้มกันหรือ antibodies
นั่นเอง ทำให้ยังคงผลิตฮอร์โมน T3 T4 ออกมาเรื่อยๆ ในขณะที่ ฮอร์โมนที่มากระตุ้นคือ TSH นั้นมีระดับต่ำเรียบร้อยแล้ว พูดอีกนัยก็คือ ระบบควบคุมไม่ต้องการให้ผลิตแล้ว แต่ต่อมไทรอยด์ก็ยังผลิตอยู่ แทนที่จะมีประโยชน์.... กลับกลายเป็นโทษแทน จึงเรียกกันว่า.......................

...............ต่อมไทรอยด์เป็นพิษนั่นเอง............


  
กรณีที่สองนั้น เกิดจากการที่เราบริโภคอาหารจำพวกแป้งมากเกินไป หรือเป็นแป้งที่ผ่าน ขบวนการผลิต แป้งเหล่านี้ย่อยยาก ทำให้เอ็นไซม์ช่วยย่อยที่เรามีจำกัดนั้น ย่อยแป้งได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้แป้งบางส่วนมิได้ย่อย อาหารจำพวกนี้หากย่อยไม่หมดจะเป็นอาหารอย่างดีสำหรับแบคทีเรียและยีสต์ชนิดเลวหรือชนิดที่ไม่ต้องการออกซิเจนในการดำรงชีวิเจริญเติบโตได้ดี
มาก ถ่ายของเสียออกมาจนทำให้ผนังลำไส้อักเสบได้หรือเสียหาย เปิดช่องโหว่ให้อาหารที่ย่อยไม่สมบูรณ์หรือมีโมเลกุลใหญ่อยู่ สามารถรั่วซึมเข้าไปในน้ำเหลืองเรา และเข้าไปในกระแสเลือดได้ หรือที่เราสมมุติเรียกกันว่า Leaky Gut Syndrome การที่เราขาดเอ็นไซม์ จากตับอ่อน เช่น Lipase Protease และ Amylases นั้น ทำให้ผลลัพธ์ของการย่อยไม่สมบูรณ์อาหารโมเลกุลใหญ่ที่ย่อยไม่สมบูรณ์นี้ หลุดลอดเข้าไปในร่างกายได้ ระบบภูมิคุ้นกันเราจึงส่งเม็ดเลือดขาวมาขจัด แต่มันไม่ใช่เชื้อโรค มันเป็นโมเลกุลอาหารที่ยังย่อยไม่หมด ซึ่งมีทั้งจากแป้ง โปรตีน และไขมัน ซึ่งบางอย่างนั้นอาจมีลักษณะคล้ายกับอวัยวะ กล้ามเนื้อ หรือกระดูกของเรา อวัยวะเหล่านี้จึงถูกโจมตีเหมือนกัน การระบบย่อยๆไม่สมบูรณ์นั้นยังทำให้ร่างกายเราขาดสารอาหารที่จำเป็นอีกมากมาย เช่น Amino Acidเพื่อนำไปซ่อมแซมส่วนต่างๆ Fatty Acid เพื่อให้พลังงาน วิตามิน D วิตามิน B12 เป็นต้น เป็นเหตุให้เกิดโรคต่างๆตามมามากมาย ดังต่อไปนี้
 
·        ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
·        Lupus หรือ SLE หรือภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง
·        ปวดเรื้อรัง
·        MS หรือ Multiple Sclerosis
·        Rheumatoid Arthritis
·        Hyperthyroid
·        Diabetes Type 1 ฯลฯ
กรณีการขาดวิตามิน Dนั้น เนื่องจากมันเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่ง ซึงผลิตจากคลอเรสเตอรอลใต้ผิวหนังๆสังเคราะห์ได้เมื่อถูกแสงแดด หรือUV lamp โดยการช่วยเหลือของตับและไตจึงจะได้วิตามิน DในรูปแบบD3ได้ มันช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันของเราเป็นปรกติ มีข้อความบ่งชี้ชัดว่าหลายโรคที่กล่าวมาข้างบนนั้น มีระดับวิตามินนี้ต่ำกว่าเกณฑ์ปรกติ วิตามิน D เป็นตัวช่วยให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของเราทำงานเป็นปรกติ ถ้าระดับวิตามินนี้ต่ำ ภูมิคุ้มกันของเราทำงานผิดปรกติได้ เกิดAutoimmune Diseaseได้ เช่น รูมาตอยด์ เบาหวานชนิด 1 โรคพุ่มพวง เป็นต้น สาเหตุที่ทำให้ขาดวิตามินนี้ได้แก่ วิถีชีวิตสมัยใหม่ที่ไม่ค่อยจะถูกแสงแดดและกลัวที่จะโดนแดดด้วยซ้ำ การใช้โลชั่นทากันแดด ร่างกายอ้วนเกินไปวิตามิน D สามารถละลายในไขมันได้ทำให้มันพร่องไปจากร่างกาย การดูดซึมของลำไส้ไม่ดี ตับและไตไม่สมบูรณ์ส่งเสริมการแปลงวิตามินDให้เป็นรูปแบบD3ไม่ได้ จึงไม่พร้อมที่จะนำไปใช้งาน ค่าปรกติของวิตามินDนี้ควรอยู่ระหว่าง 30-100ng/ml(75nmol/L-250nmol/L) เราควรวัดค่าของ 25(OH)vitamin D ถึงจะเป็นค่าที่นำมาประเมินได้ เราสามารถรับวิตามิน Dนี้ได้จากแสงแดด หรือแสง UV หรือจากการบริโภค หรือจากเอ็นไซม์สมุนไพร แสงแดดที่พอเพียงในการสังเคราะห์ คือ1ชม.ต่อวันหากเรามีผิวดำ และ15นาทีต่อวันถ้าผิวขาว แต่เนื่องจากชีวิตความเป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ หลายคนไม่สามารถที่จะโดนแดดได้นานถึง 1 ชม.ได้ จากอาหารก็ไม่สมบูรณ์เพราะระบบย่อยหย่อนประสิทธิภาพ จึงแนะนำให้รับเพิ่มจากอาหารเสริมสมุนไพรสำเร็จรูปจึงจะมีประสิทธิผลดีกว่า อนึ่งอาหารที่แนะนำได้แก่ นมสด โยเกิร์ต ปลาที่ไม่ทอด ชีส เป็นต้น
 
กรณีการขาดวิตามิน  B12 ด้วยเนื่องจากลำไส้ขาด IFแฟคเตอร์ มาเป็นตัวนำพาวิตามิน B12 เข้าสู่ร่างกายได้ ทำให้ดูดซึมไม่ได้ ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ DNAได้ ซึ่งสำคัญมาก สำหรับ สมอง ประสาท เม็ดเลือด หัวใจ ลำไส้ การดูดซึมกรดไขมัน เป็นต้น การขาดวิตามิน B12 จะทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ชามือชาเท้า เป็นเหน็บชา ความจำเสื่อม หดหู่ ซึมเศร้า เบื่ออาหาร การทรงตัวไม่ดี ท้องผูกสลับท้องเสีย  และโลหิตจาง สามารถเช็คระดับวิตามินนี้ได้จากผลการตรวจเลือด ค่าที่ปรกติควรอยู่ระหว่าง 400-1000 pg/ml  แหล่งอาหารที่มี B12สูง เช่น นมสด ผลิตภัณฑ์นมสด ปลาแซลมอน ปลาคราบ หอยนางรม ปลาซาดีน ตับ ไต แต่อาหารเหล่านี้มักจะดูดซึมได้ไม่เต็มที่เพราะการดูดซึมมันเกิดไม่ดีตั้งขึ้นแล้ว  เราจึงควรรับจากผลิตภัณท์ชนิดพิเศษที่ทำไว้เฉพาะเจาะจง จึงจะสามารถซึมเข้าร่างกายได้ง่าย

...................มีวิธีรักษาไหม ???....................
วิธีรักษามีอยู่ เป็น ขั้นตอน คือ
·        ทำตัวปราศจากความทุกข์และความกังวลให้ได้ หรือให้มีเวลาคลายได้(มีวิธีครับ)
·        รับประทานอาหารให้ถูกต้อง ตรงเวลา และเสริมด้วยเอ็นไซม์บำรุงกระเพาะ
·        หยุดทานของทอดของมัน หยุดทานน้ำเย็น
·        รับประทานสมุนไพรสำเร็จรูปเพื่อปรับธาตุให้เป็นปรกติ
·        ปรับการใช้ยาต้านไทรอยด์ให้น้อยลงจนไม่ต้องใช้ในที่สุด


ขออธิบาย คร่าวๆ ดังนี้ ........................................................
ในเรื่องความทุกข์และความกังวลนั้นเกิดจากที่เรากลัวสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ดีจะเกิดขึ้น เช่น อนาคตจะไปรอดไหม กลัวที่จะสูญเสียสิ่งที่ตนรัก กลัวตกงานขาดรายได้กิจการของตนเองไม่ค่อยดี ฐานะในสังคมด้อยกว่าผู้อื่น กลัวว่าจะไม่ได้ถูกรับเลือกเป็น สส กลัวว่าลูกไม่ไปโรงเรียนหรือจะติดยาเสพติด เป็นต้น ทั้งหมดนี้เราสามารถแก้ไขได้ ปรึกษาได้ครับเรามีวิธีการคิดและปฏิบัติตัวแบบง่ายๆ ไม่ยาก
 
ส่วนในหัวข้ออื่นๆนั้น ก็สามารถที่จะแก้ไขได้เหมือนกัน เช่น การรับประทานอาหารเราก็ต้องรู้ว่าควรจะรับประทานอะไร ถึงจะเหมาะกับโรค และควรจะงดอาหารประเภทไหน เอ็นไซม์และวิตามินทีรับประทานเสริมควรเลือกแบบไหน และต้องมีวิธีการทดสอบที่แน่ใจว่าเราขาดอะไร และมีสาเหตุมาจากไหนกันแน่ โดยผลตรวจเลือดที่ต้องเจาะจงตามความต้องการของที่ปรึกษาของเราที่ชำนาญการ มิใช่จากการรักษาตามที่ทำกันทั่วไป
เพื่อดูค่าให้แน่ใจ  เช่น ค่า FreeT3  ค่า FreeT4 ค่าTSH ค่า Antibody ทีมีปัญหากับเรา เป็นต้นท่านสามารถปรึกษาได้ ที่ หมอสิงห์     โทร 0848743056 ทางเรามีผลิตภัณท์สำเร็จรูป วิธีการรักษาพร้อมแนะนำกับท่านอยู่แล้วครับ สำหรับคนไข้ที่รู้จักผลิตภัณท์ของเราดีอยู่แล้วเชิญ..............

    ชุดพิเศษ เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ หัวใจเต้นแรง ความดันสูง ผอม หน้าคล้ำ คลิ๊กที่นี่

                        ( มีน้ำกระสายยาเร่งการทำงานของยา และตัวยาบางส่วนจากต่างประเทศ)

      ชุดที่ 1 มีคอพอกบ้าง เหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ หัวใจเต้นแรง ผอม หน้าคล้ำ คลิ๊กที่นี่

    ชุดที่ 2 คอพอก ตาโปน คลิ๊กที่นี่ (จะทำการจำหน่ายเร็วๆนี้)

    ชุดที่ 3 สำหรับผู้ที่เริ่มเป็นไทรอยด์เป็นพิษใหม่ๆ หรือต้องการคุมอาการให้ทรง คลิ๊ก

                                   บทความโดย เภสัชกรและแพทย์แผนไทย พท.ภ พท.ว รุจิภาส ทำดี




 
 




 
 

คลิ๊กนี้มีความหมาย

 
 

Copyright (c) 2006 by Rujipass