โรคเกาต์(GOUT) เป็นชนิดหนึ่งของโรคข้ออักเสบที่ทำให้เกิดการอักเสบฉับพลัน
มักจะเป็นร่วมกัน โรคเกาต์รุนแรงบางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อข้อต่อหลายแห่ง
อะไรหนอ....ทำให้เจ็บปวด? โรคเกาต์ที่เกิดจากระดับกรดยูริคสูงในกระแสเลือด
ไตไม่สามารถที่จะระบายออกได้ตามปกติ และในที่สุดกรดยูริคก็ตกผลึกตามบริเวณข้อต่อต่างๆ
ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายเข็มเล่มเล็กๆ ทิ่มแทงเนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อนั้นๆ เกิดการอักเสบนำไปสู่อาการปวด
แดง ร้อน และอาการบวม กรดยูริคที่พบในร่างกายตามปกติเป็นผลพลอยได้จากการย่อยโปรตีน
จากสารที่เรียกว่าพิวรีน
กรดยูริคคืออะไร
กรดยูริค เกิดจากสารพิวรีน ที่มีอยู่ในอาหารหลายชนิดกรดยูริคในร่างกายได้จาก 2 ทางคือ
1.จากอาหารที่รับประทาน ประมาณร้อยละ 20 ได้จากอาหารที่รับประทาน ซึ่งมีมากในเนื้อสัตว์ ซึ่งจะถูกย่อยสลายจนเกิดเป็นยูริค
2.จากร่างกายสร้างขึ้นเอง
ประมาณร้อยละ 80 ได้ จากการสลายเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายแล้วถูกเปลี่ยนให้เป็นกรดยูริค เช่นกล้ามเนื้อทำงานมากขึ้น หรือภาวะอดอาหาร
ร่างกายมีระบบควบคุมการสร้างและการกำจัดกรดยูริคอย่างสมดุล โดยปกติกรดยูริคจะถูกขับออกทางไต 2 ใน 3 ของที่ร่างกายสร้างขึ้น อีก1 ใน 3 จะขับออกทางลำไส้ใหญ่ ทางน้ำลาย น้ำย่อยและน้ำดีซึ่งจะถูกทำลายโดยแบคทีเรียในลำไส้
เพศชาย
ระดับกรดยูริคในเลือดไม่ควรเกิน 7 มิลลิกรัม ในเลือด 100 มิลลิลิตร(1 เดซิลิตร)
เพศหญิง
ระดับกรดยูริคในเลือดไม่ควรเกิน 6 มิลลิกรัม ในเลือด 100 มิลลิลิตร(1 เดซิลิตร)
โดยรวมโรคเก้าต์มีสาเหตุจาก............
1.กรรมพันธุ์ ผู้ชายจะเริ่มอายุ 35-40 ปี ส่วนผู้หญิงเริ่ม 45 ปีไปแล้ว
2.อ้วน ถ้าน้ำหนักเกิน จะส่งผลให้กรดยูริกในเลือดสูงขึ้นด้วย
3.อาหารที่มี พิวรีน สูง อาหารทะเล
4.อาหารที่มีไขมันสูง
5.โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
6.ยาที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูงจะลดการขับกรดยูริก ยาแอสไพริน
ยารักษาวัณโรค
7.เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะกระตุ้นให้มีการสร้างกรดยูริกเพิ่ม
8.ไตเสื่อม
9.โรคที่ทำให้กรดยูริกสูงเช่นโรคมะเร็ง โรคเม็ดเลือดแดงแตก
10.ภาวะขาดน้ำ
11.การได้รับอุบัติเหตุที่ข้อ
สิ่งที่แสดงว่าเป็นแน่...โรคเกาต์?
1.ปวด
บวม แดง ร้อน
โดยเฉพาะบริเวณนิ้วหัวแม่เท้าเป็นข้อที่พบบ่อยที่สุดจะมีอาการปวดข้อโดยมากปวดข้อเดียวแต่ก็ปวดหลายข้อได้
2.อาการปวดมักเป็นๆหายๆ หรือเรื้อรัง
3.ข้อที่ปวดพบได้ทุกข้อ แต่พบมากที่ ข้อนิ้ว หัวแม่เท้า ข้อเท้า
ข้อเข่า ข้อมือ ข้อนิ้วและข้อศอก
4.ในรายที่เป็นมานานอาจพบนิ่วทางเดินปัสสาวะ
5.มักปวดตอนกลางคืน หรืออากาศเย็น อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ
โรคเกาต์มักจะส่งผลกระทบต่อข้อต่อขา
หัวแม่ตีน นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อการเดินเท้า,เข่า, ข้อเท้า, ข้อศอก, ข้อมือ, มือ, หรือเกือบร่วมใด ๆ
ในร่างกาย
เมื่อโรคเกาต์จะรุนแรงมากขึ้นหรือยาวนานหลายข้อต่ออาจจะได้รับผลกระทบในเวลาเดียวกัน
สัญญาณของโรคเกาต์อีกประการหนึ่งคือการปรากฏตัวของ
tophi หินปูนหรือสารอินทรีย์ที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังป็นก้อนกลม
หรือ tophi สามารถพบได้ในสถานที่ต่าง ๆ
ในร่างกายโดยทั่วไปบนข้อศอกกระดูกอ่อนหูบนและบนพื้นผิวของข้อต่ออื่น ๆ
นิ่วในไตอาจเป็นสัญญาณของโรคเกาต์เป็นผลึกกรดยูริคในไตและก่อให้เกิดโรคนิ่วอุดตันในไต
โรคนี้จะเกิดกับผู้ชายวัยกลางคนขึ้นไปเมากกว่าผู้หญิง
ผู้ป่วยโรคนี้ก็จะป่วยเป็นโรคความดันสูงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นิ่ว เบาหวาน
และหัวใจ ค่อยทยอยๆตามกันมา
ต้นเหตุของมันเกิดจากไตเสื่อมสมรรถภาพในการทำงานจึงไม่สามารถขับกรดยูริดและไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้
การจะรักษาโรคนี้จึงต้องรักษาฟื้นฟูให้ไตกลับมีสมรรถภาพเหมือนเดิม
โรคเก๊าท์ก็จะหายขาดได้ แต่ในขณะที่ไตมีพลังขึ้นมาขับล้างกรดที่สะสมในข้อต่อต่าง ๆ
ผู้ป่วยจะเกิดความเจ็บปวดขึ้นเหมือนโรคกำเริบประมาณไม่เกินหนึ่งอาทิตย์
ถ้ากรดยูริคตามข้อลดลงอยู่ขั้นปกติเมื่อไรโรคก็หายเมื่อนั้น
การจะรักษาฟื้นฟูไตให้กลับมีสมรรถภาพดุจเดิมนั้นทางแพทย์แผนใหม่ใช้ยารักษาระดับกรดยูริคยาขับปัสสาวะ
ยาลดการอักเสบ แต่มักไม่หาย รักษาตามอาการหรือเปลี่ยนไต แล้วเกาต์นี่รักษาได้ไหม...??.......สมุนไพรไทย....ว่าไง?
วิธีรักษาแบบธรรมชาติๆ
ดีกว่ากินยาเพราะมันจะไม่มีผลข้างเคียง (side effects) และโชคดีที่ประเทศไทยเรามีสมุนไพรหลากหลายชนิด
วิธีบำบัดมี
ลดน้ำหนัก โดยการออกกำลังกาย คัดเลือกอาหาร หรือใช้สมุนไพร
ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยไม่ให้กรดยูริคตกตะกอนได้
และน้ำยังช่วยให้ไตขับกรดยูริคได้มากขึ้น
รับประทานอาหารที่มีพิวรีนต่ำ เช่น ไข่ บลูเบอรี่
สตรอเบอรี่ ผักสีเขียว
รับประทานผักและผลไม้ให้มากทุกมื้อและให้มีรสเปรี้ยวร่วมด้วย
เพื่อช่วยลดระดับกรดยูริค
ประคบน้ำแข็งสลับกับประคบน้ำอุ่น
งดแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์
สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเก้าต์ง่ายขึ้น
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น อาหารทะเล
เครื่องในสัตว์ เนื้อแดง
รับประทานอาหารเพื่อลดการอักเสบ หรือใช้น้ำมันนวดสมุนไพร
รับประทานสมุนไพรเพื่อลดกรดยูริคในร่างกาย
เพื่อละลายนิ่วในไต
>รับประทานสมุนไพรเพื่อเปลี่ยนเลือด
ช่วงที่ไตขับกรดยูริกออกจากข้อนั้นจะทำให้เจ็บปวดทรมานมาก
ผู้ป่วยต้องอดทนเพื่อจะได้หายอย่างยั่งยืน และท่านควรรับประทานสมุนไพรติดต่อกัน ไม่นานเก้าต์ก็จะหายไปในที่สุด
สมุนไพรสำเร็จรูปได้จัดทำไว้เพื่อบริการแล้ว สนใจปรึกษาหมอสิงห์ โทร
0848743056