มีหมอใดบ้าง รับประกันการรักษา กินสมุนไพรแล้วไม่ดีขึ้นยินดีคีนเงิน มาถึงคลินิกฯรักษาไม่หายยินดีจ่ายค่าเดินทาง รับประกันความพอใจโดย หมอสิงห์ เฒ่าคว่ำช้าง(พท.ว รุจิภาส ทำดี)
โรคเกาต์ คืออะไร?

โรคเกาต์(GOUT) เป็นชนิดหนึ่งของโรคข้ออักเสบที่ทำให้เกิดการอักเสบฉับพลัน มักจะเป็นร่วมกัน โรคเกาต์รุนแรงบางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อข้อต่อหลายแห่ง

อะไรหนอ....ทำให้เจ็บปวด?        โรคเกาต์ที่เกิดจากระดับกรดยูริคสูงในกระแสเลือด ไตไม่สามารถที่จะระบายออกได้ตามปกติ และในที่สุดกรดยูริคก็ตกผลึกตามบริเวณข้อต่อต่างๆ ซึ่งมีโครงสร้างคล้ายเข็มเล่มเล็กๆ   ทิ่มแทงเนื้อเยื่อบริเวณข้อต่อนั้นๆ เกิดการอักเสบนำไปสู่อาการปวด แดง ร้อน และอาการบวม กรดยูริคที่พบในร่างกายตามปกติเป็นผลพลอยได้จากการย่อยโปรตีน จากสารที่เรียกว่าพิวรีน 
กรดยูริคคืออะไร
กรดยูริค เกิดจากสารพิวรีน ที่มีอยู่ในอาหารหลายชนิดกรดยูริคในร่างกายได้จาก 2 ทางคือ
1.จากอาหารที่รับประทาน ประมาณร้อยละ 20 ได้จากอาหารที่รับประทาน ซึ่งมีมากในเนื้อสัตว์ ซึ่งจะถูกย่อยสลายจนเกิดเป็นยูริค
2.จากร่างกายสร้างขึ้นเอง ประมาณร้อยละ 80 ได้ จากการสลายเซลล์หรือเนื้อเยื่อในร่างกายแล้วถูกเปลี่ยนให้เป็นกรดยูริค เช่นกล้ามเนื้อทำงานมากขึ้น หรือภาวะอดอาหาร
ร่างกายมีระบบควบคุมการสร้างและการกำจัดกรดยูริคอย่างสมดุล โดยปกติกรดยูริคจะถูกขับออกทางไต 2 ใน 3 ของที่ร่างกายสร้างขึ้น อีก1 ใน 3 จะขับออกทางลำไส้ใหญ่ ทางน้ำลาย น้ำย่อยและน้ำดีซึ่งจะถูกทำลายโดยแบคทีเรียในลำไส้
เพศชาย ระดับกรดยูริคในเลือดไม่ควรเกิน 7 มิลลิกรัม ในเลือด 100 มิลลิลิตร(1 เดซิลิตร)

เพศหญิง ระดับกรดยูริคในเลือดไม่ควรเกิน 6 มิลลิกรัม ในเลือด 100 มิลลิลิตร(1 เดซิลิตร)

โดยรวมโรคเก้าต์มีสาเหตุจาก............

1.กรรมพันธุ์ ผู้ชายจะเริ่มอายุ 35-40 ปี ส่วนผู้หญิงเริ่ม 45 ปีไปแล้ว 
2.อ้วน ถ้าน้ำหนักเกิน จะส่งผลให้กรดยูริกในเลือดสูงขึ้นด้วย 
3.อาหารที่มี พิวรีน สูง อาหารทะเล
4.อาหารที่มีไขมันสูง 
5.โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน
6.ยาที่ใช้รักษาความดันโลหิตสูงจะลดการขับกรดยูริก ยาแอสไพริน ยารักษาวัณโรค 
7.เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ จะกระตุ้นให้มีการสร้างกรดยูริกเพิ่ม 
8.ไตเสื่อม 
9.โรคที่ทำให้กรดยูริกสูงเช่นโรคมะเร็ง โรคเม็ดเลือดแดงแตก 
10.ภาวะขาดน้ำ 
11.การได้รับอุบัติเหตุที่ข้อ 

สิ่งที่แสดงว่าเป็นแน่...โรคเกาต์?

1.ปวด บวม แดง ร้อน โดยเฉพาะบริเวณนิ้วหัวแม่เท้าเป็นข้อที่พบบ่อยที่สุดจะมีอาการปวดข้อโดยมากปวดข้อเดียวแต่ก็ปวดหลายข้อได้ 
2.อาการปวดมักเป็นๆหายๆ หรือเรื้อรัง 
3.ข้อที่ปวดพบได้ทุกข้อ แต่พบมากที่ ข้อนิ้ว หัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ ข้อนิ้วและข้อศอก  
4.ในรายที่เป็นมานานอาจพบนิ่วทางเดินปัสสาวะ
5.มักปวดตอนกลางคืน หรืออากาศเย็น อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ 

 โรคเกาต์มักจะส่งผลกระทบต่อข้อต่อขา หัวแม่ตีน นอกจากนี้ยังสามารถส่งผลกระทบต่อการเดินเท้า,เข่า, ข้อเท้า, ข้อศอก, ข้อมือ, มือ, หรือเกือบร่วมใด ๆ ในร่างกาย เมื่อโรคเกาต์จะรุนแรงมากขึ้นหรือยาวนานหลายข้อต่ออาจจะได้รับผลกระทบในเวลาเดียวกัน

สัญญาณของโรคเกาต์อีกประการหนึ่งคือการปรากฏตัวของ tophi หินปูนหรือสารอินทรีย์ที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังป็นก้อนกลม หรือ tophi สามารถพบได้ในสถานที่ต่าง ๆ ในร่างกายโดยทั่วไปบนข้อศอกกระดูกอ่อนหูบนและบนพื้นผิวของข้อต่ออื่น ๆ

 นิ่วในไตอาจเป็นสัญญาณของโรคเกาต์เป็นผลึกกรดยูริคในไตและก่อให้เกิดโรคนิ่วอุดตันในไต

 โรคนี้จะเกิดกับผู้ชายวัยกลางคนขึ้นไปเมากกว่าผู้หญิง ผู้ป่วยโรคนี้ก็จะป่วยเป็นโรคความดันสูงเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ นิ่ว เบาหวาน และหัวใจ ค่อยทยอยๆตามกันมา ต้นเหตุของมันเกิดจากไตเสื่อมสมรรถภาพในการทำงานจึงไม่สามารถขับกรดยูริดและไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายได้ การจะรักษาโรคนี้จึงต้องรักษาฟื้นฟูให้ไตกลับมีสมรรถภาพเหมือนเดิม โรคเก๊าท์ก็จะหายขาดได้ แต่ในขณะที่ไตมีพลังขึ้นมาขับล้างกรดที่สะสมในข้อต่อต่าง ๆ ผู้ป่วยจะเกิดความเจ็บปวดขึ้นเหมือนโรคกำเริบประมาณไม่เกินหนึ่งอาทิตย์ ถ้ากรดยูริคตามข้อลดลงอยู่ขั้นปกติเมื่อไรโรคก็หายเมื่อนั้น

การจะรักษาฟื้นฟูไตให้กลับมีสมรรถภาพดุจเดิมนั้นทางแพทย์แผนใหม่ใช้ยารักษาระดับกรดยูริคยาขับปัสสาวะ ยาลดการอักเสบ แต่มักไม่หาย รักษาตามอาการหรือเปลี่ยนไต แล้วเกาต์นี่รักษาได้ไหม...??.......สมุนไพรไทย....ว่าไง?

 วิธีรักษาแบบธรรมชาติๆ ดีกว่ากินยาเพราะมันจะไม่มีผลข้างเคียง (side effects) และโชคดีที่ประเทศไทยเรามีสมุนไพรหลากหลายชนิด วิธีบำบัดมี

ลดน้ำหนัก โดยการออกกำลังกาย คัดเลือกอาหาร หรือใช้สมุนไพร

ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยไม่ให้กรดยูริคตกตะกอนได้ และน้ำยังช่วยให้ไตขับกรดยูริคได้มากขึ้น

รับประทานอาหารที่มีพิวรีนต่ำ เช่น ไข่ บลูเบอรี่ สตรอเบอรี่ ผักสีเขียว

รับประทานผักและผลไม้ให้มากทุกมื้อและให้มีรสเปรี้ยวร่วมด้วย เพื่อช่วยลดระดับกรดยูริค

ประคบน้ำแข็งสลับกับประคบน้ำอุ่น

งดแอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเก้าต์ง่ายขึ้น

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น อาหารทะเล เครื่องในสัตว์ เนื้อแดง

รับประทานอาหารเพื่อลดการอักเสบ หรือใช้น้ำมันนวดสมุนไพร

รับประทานสมุนไพรเพื่อลดกรดยูริคในร่างกาย เพื่อละลายนิ่วในไต

>รับประทานสมุนไพรเพื่อเปลี่ยนเลือด

ช่วงที่ไตขับกรดยูริกออกจากข้อนั้นจะทำให้เจ็บปวดทรมานมาก ผู้ป่วยต้องอดทนเพื่อจะได้หายอย่างยั่งยืน และท่านควรรับประทานสมุนไพรติดต่อกัน ไม่นานเก้าต์ก็จะหายไปในที่สุด สมุนไพรสำเร็จรูปได้จัดทำไว้เพื่อบริการแล้ว สนใจปรึกษาหมอสิงห์ โทร 0848743056


                                                            บทความโดยเภสัชกรและแพทย์แผนไทย  
                                                                                นายรุจิภาส ทำดี



 

                        
                     
 

คลิ๊กนี้มีความหมาย

 
 

Copyright (c) 2006 by Rujipass